10 เหตุผลทำไมเราต้องเล่น CSGO








12 ปี ของ FPS ในตำนานกับภาคล่าสุด Counter-Strike: Global Offensive

    นับจากปัจจุบันก็เป็นเวลากว่า 12 ปีแล้ว ที่ Counter-Strike ซึ่งเป็น MOD ของเกม Half-Life ได้ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกของนักเล่นเกม โดยเกมรุ่นแรกสุดเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 1999 และนับได้ว่าเป็น MOD ที่มีคนเล่นมากที่สุดในโลก ต่อมา Valve จึงซื้อสิทธิ์ในการพัฒนาไปขายเป็นแพคเกจในชื่อ Counter-Strike  1.0 วางจำหน่ายในปี 2000 และออกภาคต่อมาอีกสองภาคคือ Counter-Strike: Condition Zero วางจำหน่ายในปี 2003 และ Counter-Strike: Source วางจำหน่ายในปี 2004 และในเดือนสิงหาคมปี 2012 นี้ ก็ถึงเวลาที่เกม FPS ระดับตำนาน จะกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ในชื่อ Counter-Strike: Global Offensive


    ย้อนเวลากลับไปในปี 1998 เมื่อ Valve ได้ให้กำเนิดเกม Half-Life ขึ้นมา ทันทีที่เกมออกสู่สายตาเกมเมอร์ ถึงกับสร้างความตื่นตะลึงให้กับเกมเมอร์ทั่วโลก ด้วยความเหนือกว่าเกมรุ่นเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันทุกๆ ด้าน เช่น กราฟฟิกสวยงาม ระบบ AI ที่แสนชาญฉลาด ตัวละครประกอบในเกมที่สามารถพูดตอบโต้กับผู้เล่นภายในเกมได้ จนกวาดรางวัลเกมยอดเยี่ยมไปกว่า 50 รางวัลภายในปีนั้น

    ต่อมาในปี 1999 Counter-Strike จึงถือกำเนิดขึ้น เมื่อ Minh Le และ Jess cliffe ได้พัฒนา MOD ของเกม Half-Life ขึ้นมา ด้วยแนวคิดง่ายๆ คือปฏิบัติการที่มีเพียงแค่ 2 ฝ่ายคือหน่วยต่อต้านผู้ก่อการร้ายกับผู้ก่อการร้าย (ผู้เล่นส่วนใหญ่เรียกฝ่ายตำรวจกับโจร) โดยแต่ละฝ่ายจะมีภารกิจที่แตกต่างกันออกไป เช่น วางระเบิด, การช่วยเหลือตัวประกัน เป็นต้น ในขณะที่พัฒนา MOD ตัวนี้สำเร็จ ก็มีการตั้งชื่อขึ้นมาโดยชื่อที่ถูกใจผู้พัฒนาทั้ง 2 ได้มาจากการนำเอาชื่อ Counter Force และ Strike Force มารวมกันโดยตัดคำว่า Force ทิ้งไป เป็นชื่อใหม่ว่า Counter-Strike นั่นเอง

1. โหมด Arsenal ใหม่ล่าสุด
    Arsenal Mode เป็นโหมดการเล่นที่นำเอา MOD Gun Game มาพัฒนาปรับปรุงใหม่ โดยทาง Valve ได้พัฒนาร่วมกับ ไมเคิล บาร์ (Michael Barr) หัวหน้าทีมโปรเจกต์ผู้คิดค้น MOD Gun Game จากเกม Counter-Strike: Source ขึ้นมา โดยเมื่อเริ่มเกมผู้เล่นทั้งฝ่ายตำรวจและโจร จะมีปืนพกติดตัวมาคนละกระบอก หากผู้เล่นสามารถสังหารศัตรูได้หนึ่งคนก็จะได้รับอาวุธใหม่หนึ่งชิ้นที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม ซึ่งอาวุธที่ได้มาใหม่นี้จะกลายมาเป็นอาวุธพื้นฐานติดตัวผู้เล่นไปตลอดไม่หายไปไหนจนกว่าผู้เล่นจะได้อาวุธชิ้นใหม่จากการสังหารศัตรู โดยหากผู้เล่นคนใดได้รับอาวุธครบทั้งหมดแล้วใช้มีดฆ่าศัตรูได้ก่อนก็จะเป็นฝ่ายชนะไป สำหรับในโหมด Arsenal นี้ จะมีแผนที่ให้เล่น 8 แผนที่ แบ่งเป็นโหมดย่อยอีก 2 โหมดคือ Arsenal: Arms Race และ Arsenal: Demolition

    ทั้งนี้มีการยืนยันเพิ่มเติมแล้วว่าจะนำ MOD Zombie มาทำเพิ่มเป็นอีก 1 โหมดการเล่นด้วย ติดตามรายละเอียดได้เร็วๆ นี้




2. รูปแบบการเล่นที่สมดุลของทั้งสองฝ่าย

    ด้วยแนวคิดเดิมของผู้ให้กำเนิด Counter-Strike ไม่ว่าคุณจะเล่นฝ่ายตำรวจหรือโจร เริ่มต้นเกมมาเหมือนกันนั่นก็คือมีงบประมาณและเวลาที่จำกัด เพื่อเลือกซื้ออาวุธและยุทโธปกรณ์ต่างๆ เมื่อหมดเวลาแล้วจะไม่สามารถซื้อเพิ่มได้อีก จากนั่นทั้งสองฝ่ายก็จะต้องรีบวิ่งเข้าสู่พื้นที่เป้าหมาย กลยุทธ์การรุกและรับจะเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ไหนก็ตาม ไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ แต่ขึ้นอยู่กับทักษะเฉพาะตัวของผู้เล่นแต่ละฝ่าย ว่าใครยิงแม่นกว่า หรือใครช่ำชองแผนที่มากกว่ากัน!!



3. Graphic สมจริงที่เหนือกว่าเกม FPS ทั่วไป
    ภาคล่าสุดนี้ใช้เอนจิ้นตัวเดียวกันกับเกมชื่อดังอย่าง Portal 2 นั่นคือ Source Engine 2 ทำให้ระบบของเกมโดยรวมทั้งหมดล้ำหน้ากว่าเกมภาคก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงมีการปรับปรุงในด้านระบบเสียงซึ่งสามารถรองรับเสียงรอบทิศทาง (5.1 Surround) ได้แล้วด้วย





4. การเคลื่อนไหวคงความเป็น Counter-Strike ไม่เสียอรรถรส




5. แผนที่ใหม่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
    นอกจากแผนที่เดิมๆ ที่คุ้นเคยจะถูกยกเครื่องใหม่ให้สวยงามสุดอลังการ อีกทั้งยังพ่วงด้วยระบบการรองรับผู้เล่นสูงสุดต่อรอบที่ 16 VS 16 ซึ่งถือว่าสูงมากทีเดียวอีกด้วย

ตัวอย่างภาพเปรียบเทียบของแผนที่ระหว่างเกม
Counter-Strike: Source (ซ้าย) VS Counter-Strike: Global Offensive (ขวา)
(สามารถคลิกที่รูปเพื่อดูภาพแบบขยายใหญ่)

Cs_Italy
 

De_Aztec
 

De_Dust
 

De_Dust2
 

De_Train
 




6. อาวุธใหม่ที่อัพเดตเพิ่มมากขึ้น
    ในภาคใหม่นี้มีการปรับปรุงชนิดของอาวุธภายในเกมให้ทันสมัยยิ่งขึ้นอาทิเช่นเปลี่ยนจาก MP5 เป็น MP7, M4A1 เป็น M4A4, P228 เป็น P250 และมีการเพิ่มอาวุธใหม่เข้ามาด้วยเช่น PP-Bizon, Negev, Tec-9, ฯลฯ และรวมไปถึงระเบิดอื่นๆ อีกด้วย



7. ชุดตัวละครที่เปลี่ยนใหม่ตามแผนที่
    แม้ตัวเกมจะแบ่งฝ่ายออกเป็นแค่ 2 ฝ่าย คือ Counter-Terrorists (ตำรวจ) และ Terrorists (โจร) แต่ตัวละครของแต่ละฝ่ายก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามแผนที่ที่เลือกเล่น เช่นชุดโจรในแผนที่ A เครื่องแต่งกายจะไม่เหมือนในแผนที่ B เป็นต้น



8. Achievement ให้ไล่ล่าอีก 100 กว่าชนิด
    สำหรับผู้เล่น Hard-Core ที่ชื่นชอบการไล่ล่า Achievement ภายในภาคนี้ก็มีให้ได้เลือกทำหลากหลายหมวดหมู่ รวมแล้วมากกว่า 100 รูปแบบ




9. เข้าเล่น Online ได้โดยสามารถเล่นรวมกันได้สูงสุด 32 คน
    ฉีกกฎการเล่นภาคก่อนที่รองรับการเล่นได้เพียง 5 VS 5 มาคราวนี้กับภาค Global Offensive คุณสามารถได้พร้อมกันสูงสุด 32 คนภายในห้องเดียว หรือก็คือ 16 VS 16 นั่นเอง



10. พบการแข่งขันที่จะปะทุขึ้นอีกกว่า 60 รายการ
    เตรียมพบกับการแข่งขันทั้งใน และต่างประกาศซึ่งรอคิวจัดขึ้นกว่า 60 รายการสำหรับเกม Counter-Strike: Global Offensive (CS: GO) โดยมีการยืนยันแล้วว่าสำหรับการแข่งขันของ Counter-Strike ภาคก่อน ไม่ว่าจะเป็น CS: 1.6 และ CS: S เตรียมถูกโยกมาแข่งขันด้วยเกมภาคใหม่ CS: GO นี้แทน


credit : Goldensoft 

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แชมป์จากรายการ MSI Beat it คือ NearlyGod.MSi ครับผม